How to เตรียมตัวเดินทางไปล่าแสงเหนือที่สวยที่สุดในรอบ 20 ปี

ไปดูที่ไหนได้บ้าง และ ต้องเตรียมอะไรบ้าง จบครบในที่เดียว

สารบัญ

ประเทศที่เหมาะสำหรับไปดูแสงเหนือ
วิธีการเตรียมตัว

ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อของ “แสงเหนือ หรือ ออโรร่า” (Northern lights or Aurora) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หลายๆคน ตั้งใจว่าจะต้องไปเห็นได้ด้วยตาตัวเองซักครั้งในชีวิต แล้วช่วงเวลาไหนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะไปดูแสงเหนือกันล่ะ?

ปกติแสงเหนือสามารถเห็นได้ในปลายฤดูใบไม้ร่วง ถึง ต้นฤดูใบไม้ผลิ ประมาณช่วงเดือน ต.ค – มี.ค ในบริเวณแถบขั้วโลกหนือ ถ้าคุณตั้งใจว่าอยากจะไปประสบพบเจอกับประสบการณ์แบบนี้สักครั้งในชีวิต ปี 2024 นี้ ก็ถือเป็นปีที่คุณไม่ควรพลาด ที่จะเก็บเกี่ยวโอกาสนั้นไว้

เนื่องจากนักวิจัยฟิสิกส์อวกาศจากหอดูดาวธรณีฟิสิกส์ทรอมโซ มหาวิทยาลัยอาร์กติกแห่งนอร์เวย์ (UiT) ได้คาดการณ์ไว้ว่า บริเวณขั้วโลกเหนือ โดยเฉพาะยุโรป จะมองเห็นแสงเหนือที่สวยที่สุดในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมไปจนถึงตุลาคม เป็นผลมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘Solar Maximum’ ที่ได้เกิดขึ้นในทุกๆ 11 ปี จึงส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จากการสลับขั้วแม่เหล็กเหนือ-ใต้ ในสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ซึ่งจากการคาดการณ์นี้จะทำให้นักล่าแสงเหนือทั้งหลายมีโอกาสที่จะมองเห็นแสงเหนือได้มากขึ้น!

รู้แบบนี้แล้ว ช่วงสิ้นปีนี้ คงยังไม่สายไปที่จะวางแผนไปเที่ยวกัน ถ้าพร้อมแล้วมาดูรายชื่อประเทศที่เราสามารถไปดูแสงเหนือได้ว่ามีที่ไหนบ้าง

ประเทศที่เหมาะสำหรับไปดูแสงเหนือ

นอร์เวย์

เริ่มกันที่ประเทศแรกในแถบสแกนดิเนเวีย นอร์เวย์ เป็น 1 ใน สถานที่ปลายทางแรก ๆ ที่นักล่าแสงเหนือนึกถึง เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบาย ง่าย และ มีโอกาสที่จะเห็นแสงเหนือได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณตอนเหนือของประเทศ และมีทัวร์ที่น่าสนใจมห้เลือกหลายหลาย สำหรับเมืองที่น่าสนใจ เช่น เมืองทรุมโซ (Tromsø) เมืองอัลตา (Alta) เกาะโลโฟเตน(Lofoten) หรือจะเป็นเกาะที่อยู่ตอนเหนือที่สุดของประเทศอย่าง เกาะสวอลบาท (Svalbard Island)

ไอซ์แลนด์

หากคุณชอบการผจญภัย หรือ Road trip ประเทศนี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางในการล่าแสงเหนือที่เหมาะกับคุณ! โดยอาจจะซื้อทัวร์ผ่านเอเจนซี่นำเที่ยว หรือ จัดแพลนเอง เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ภายในเกาะสามารถเดินทางได้ทั่วรอบเกาะ ทำให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นกับการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจบนเกาะนี้ได้ และได้เห็นแสงเหนือในเวลาเดียว

สวีเดน

Northern lights as seen from Sweden. In the foreground, the Anchor of Roslagen.

สวีเดนถือเป็นอีกหนึ่งประเทศในแถบสแกนดิเนเวียที่มองเห็นแสงเหนือได้ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามรายล้อม หากคุณอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาดูแสงเหนือ สามารถเดินทางมาได้ที่เมือง Kiruna มายังอุทยานแห่งชาติอบิสโก (Abisko National Park) พร้อมด้วยกิจกรรมที่หลากหลายทั้งindoor และ outdoor รวมถึงการไปเยี่ยมชม ICEHOTEL โรงแรมที่ทำจากน้ำแข็งที่มีชื่อเสียง และ Aurora Sky Station

ฟินแลนด์

ต่อกันที่ประเทศฟินแลนด์ กับการชมแสงเหนือที่สุดจะฟิน สมชื่อกับประเทศสุดๆ ท่ามกลางป่าที่มีหิมะสีขาวโพลนปกคุลม ให้บรรยากาศสงบ แต่กลับเต็มไปด้วยความสวยงามและความตื่นตาตื่นใจ ที่ไม่สามารถบรรยายได้หมด ต้องลองมาประสบพบเจอให้ได้ด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต โดยเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกัน คือพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ หรือเรียกอีกชื่อว่า Lapland เช่นเมือง Rovaniemi ที่เป็นหมู่บ้านกำเนิดซานตาครอส

กรีนแลนด์

ขยับเข้ามาใกล้กับแถบขั้วโลกเหนืออีกนิด กับ กรีนแลนด์ ที่ไม่ได้มีสีเขียวตามชื่อ! กรีนแลนด์ตั้งอยู่ในเขตมหาสมุทรอาร์กติก ซึ่งถือว่าเป็นดินแดนเหนือสุดของโลก และเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ปกคลุมด้วยสีขาวจากหิมะตลอดปี! ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกขนาดนี้ ยังไงก็มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้แน่นอน ถ้าคุณตั้งใจว่าทริปนี้ต้องเห็นแสงเหนือ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับคุณ เมืองที่น่าสนใจ เช่น เมือง Nuuk เมืองหลวงของเกาะนี้ หรือ เมือง Kangerlussuaq ทางทิศตะวันตกของเกาะ

รัสเซีย

ถ้าคุณไม่อยากปวดหัวกับเอกสารในการยื่นวีซ่าเพื่อเดินทางไปดูแสงเหนือ รัสเซียถือเป็นคำตอบที่ลงตัวสุดๆ เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถอยู่พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน อีกทั้งการเดินทางก็ประหยัดเวลากว่าการขึ้นเครื่องบินข้ามทวีปเพื่อจะไปดูแสงเหนือ ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว โดยพิกัดเมืองที่สามารถชมแสงเหนือได้ เช่น Murmansk ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงที่สุด ในการไปดูแสงเหนือ ของรัสเซีย หรือเช่น Kirovsk ถ้าคุณอยากทำกิจกรรม Outdoor อย่าง การเล่นสกี

อลาสก้า, สหรัฐอเมริกา

อีกหนึ่งหมุดที่ห้ามพลาดกับการชมแสงเหนือ ที่ถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามและแปลกตา กับ อลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น เมือง Fiarbanks ที่เป็นจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในสหรัฐอมริกา เดินทางสะดวกจากสนามบินนานาชาติและใกล้กับอุทยานแห่งชาติ Denali (Denali National Park)

แคนาดา

ประเทศสุดท้ายแต่ไม่ท้ายที่สุด ที่เราจะพูดถึงคือประเทศแคนาดา โดยสามารถไปชมแสงเหนือได้หลากหลาย เช่น รัฐManitoba ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ Sub-Arctic Circle หรือ พื้นที่กึ่งขั้วโลก หรือ พื้นที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwest Territiroes) ที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวพื้นเมืองอย่าง ชาวDene

ซึ่งการจะได้ชมปรากฏการณ์นี้ก็นับเป็นเรื่องที่ท้าทายพอสมควร และต้องอาศัยดวงด้วยเช่นกัน เพราะ ถึงแม้จะไปถูกที่ถูกเวลาแล้ว การเช็คการพยากรณ์การเกิดแสงเหนือก็สำคัญ เพราะถ้าวันไหนที่ท้องฟ้าปิด ก็ยากที่จะเห็นประกฎการณ์นี้เช่นกัน เพื่อลดความเสี่ยง การเตรียมตัว ช่วงเวลาที่ไป และระยะเวลาที่ไปเที่ยว จึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

วิธีการเตรียมตัว

เอกสารสำหรับการยื่นวีซ่า

ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ถือว่าอยู่ในเขตเชงเก้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสมัครวีซ่าเชงเก้น เพื่อที่จะไปยังประเทศจุดหมายที่จะเดินทางไป การสมัครวีซ่าเชงเก้นเพื่อการท่องเที่ยว มี 2 รูปแบบ คือ

วีซ่าท่องเที่ยวแบบเข้าได้ครั้งเดียว (Single-entry) เพื่อเดินทางในประเทศเดียว
วีซ่าท่องเที่ยวแบบการเข้าหลายครั้ง (Multiple entry) เพื่อไปเที่ยวประเทศอื่นในเขตเชงเก้นต่อ

ซึ่งต้องยื่นเรื่องสมัครกับประเทศที่จะอยู่นานที่สุด โดยทั้ง 2 รูปแบบนี้ สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน นับตั้งแต่วันเข้าประเทศในเขตเชงเก้นเป็นวันแรก

วางแผนการเดินทาง
การเช็คสภาพอากาศ และ ช่วงเวลาที่เหมาะสม ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่การันตีว่าจะได้เจอกับแสงเหนือแน่นอน โดยสามารถโหลดแอพพลิเคชั่นเช็คค่าแสงเหนือในแต่ละวัน เพื่อความแม่นยำมากขึ้น รวมถึงการจองที่พักต่างๆ และตั๋วเครื่องบิน / ยานพาหนะ สำหรับการเดินทาง
เสื้อผ้า และ เครื่องทำความอุ่น

แน่นอนว่าการไปดูแสงเหนือต้องมาพร้อมกับการไปยังสถานที่ที่หนาวเย็น อาจถึงติดลบได้ ดังนั้นเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไปไม่ได้

กล้อง
หากตั้งใจที่จะเก็บรูปถ่ายมาเป็นที่ระลึกจากการเดินทาง ควรเลือกกล้องที่สามารถถ่ายในที่มืด และเก็บค่าสีของแสงเหนือได้อย่างชัดเจน เช่น กล้องDSLR อีกทั้งยังต้องศึกษาทั้งการใช้กล้อง ตั้งค่ากล้อง การปรับรูรับแสง และการปรับสปีดชัตเตอร์ เพื่อถ่ายรูปแสงเหนือให้ออกมาสวย ประทับใจ และไม่มีปัญหาเวลาอยู่ที่จริง
กระเป๋าเดินทางคู่ใจ
ในการเดินทางไปล่าแสงเหนือ กระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมควรมีความทนทาน แข็งแรง กันน้ำ และ ความหนาวเย็นจากหิมะได้ หรือถ้าไม่แน่ใจว่ากระเป๋าเดินทางแบบไหนเหมาะสมกับการเดินทางไปล่าแสงเหนือ Bags First กระเป๋าเดินทางที่สามารถช่วยคุณได้ เพราะเรามีกระเป๋าเดินทางที่หลากหลาย ทำให้คุณมั่นใจกับการเดินทาง และได้รับประสบการณ์ดีๆ ตลอดการเดินทาง

แนะนำกระเป๋าเดินทาง Bagsfirst

กระเป๋าเดินทางขอบอลูมิเนี่ยม รหัส RBL01